ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ตชด.12) ลาดตระเวน ตั้งบังเกอร์ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.โคกสูง เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง หลังมีรายงานมีกลุ่มชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืช หรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ซึ่งละเมิดข้อตกลง MOU 43
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 ที่ จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวรายงาน ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ตชด.12) จัดกำลังลาดตระเวนแนวชายแดนในพื้นที่เปราะบาง 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกสูง และอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หลังจากมีกรณีข้อพิพาท ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจุดที่ยังเป็นพื้นที่ข้อพิพาทจากแนวเขตตาม MOU ปี 2543 ซึ่งห้ามทั้งสองประเทศสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรใดๆ
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.12 ในการตรวจจุดแนวชายแดน โดยเริ่มจากแนวตะเข็บรอยต่อบริเวณอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งติดกับจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นแนวเขตพื้นที่ที่เรียกว่าดินต่อดิน ซึ่งเป็นแนวกั้นธรรมชาติอย่างชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างจากแนวชายแดนอำเภออรัญประเทศ ที่มีคลองธรรมชาติ เช่น คลองพรหมโหด ซึ่งแนวคลองลึก จะมีแนวลวดหนามกั้นชัดเจนตลอดทั้งเส้นทาง
ซึ่งเจ้าหน้าที่เผยว่า บริเวณโคกสูงเป็นพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากยังมีข้อพิพาทเรื่องเขตแดน และมีรายงานว่า มีกลุ่มชาวกัมพูชาบางกลุ่ม ลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืชหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ซึ่งละเมิดข้อตกลง MOU 43 โดยตรง
ด้วยเหตุนี้ ตชด.12 ต้องเพิ่มมาตรการตรึงกำลังแน่นหนา โดยมีการตั้งบังเกอร์จุดละ 100 เมตรตลอดแนวชายแดน พร้อมลาดตระเวนสลับรูปแบบ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเดินเท้า เพื่อให้การเฝ้าระวังพื้นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
เจ้าหน้าที่ ตชด. ยังเผยเพิ่มเติมว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงกลุ่มลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมาย และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มักใช้เส้นทางธรรมชาติเหล่านี้เป็นทางผ่านเข้าออก
“ทุกวันนี้เราต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่เปราะบางด้านความมั่นคง ยังเป็นช่องทางที่กลุ่มผิดกฎหมายพยายามใช้ในการลักลอบเคลื่อนไหวอยู่เสมอ” เจ้าหน้าที่นายหนึ่งกล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้วยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียดต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงยืนยันการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนไทยอย่างต่อเนื่อง.
