ลักลอบเข้าไทย เขมรอดอยาก งานไม่มีทํา! แห่ไปเยือน ‘ปราสาทตาเมือนธม’ (คลิป)

แม่ทัพภาคที่ 2 วอนประชาชน อย่าใช้อารมณ์ในการดูคลิปที่ฝั่งตรงข้ามปล่อยมา เพราะบางครั้งไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น เป็นการสร้างไอโอทางการเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน ยืนยันความสัมพันธ์อยู่ในเกณฑ์ดีไม่มีปัญหาอะไร ด้านนักท่องเที่ยว ยังหลั่งไหลชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทำบุญตักบาตรวันอาสาฬหบูชาเสร็จและยังสนใจชมหมุดจีพีเอสในพื้นที่ 15 ชีวิตชาวกัมพูชาลอบข้ามแดนเข้าไทยมาทางช่องทางธรรมชาติ หลังต้องประสบกับความอดอยากในบ้านเกิด ยอมเสี่ยงชีวิตกลับมาทำงานที่ตลาดโรงเกลืออีกครั้ง

จากกรณีฝ่ายกัมพูชาปล่อยคลิปทหารไทย มีปากเสียงกับทหารกัมพูชา ที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และพลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกชี้แจงว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ก.ค. โดยสื่อของกัมพูชานำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาลงโซเชียลนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ว่า จากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจงและขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้อธิบายทำความเข้าใจกัน จนเป็นที่เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรม มิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชา ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ด้าน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ตามคลิปว่า ช่วงนี้อาจมีคลิปที่กระทบต่อความรู้สึกของประชาชน ต่อทหารไทยและทหารกัมพูชา ที่อาจจะกระทบกระทั่งกันตามแนวชายแดนบางจุด บางครั้งมันมีต้นเหตุ แต่ไม่ใช่ตามคลิปที่ออกไป อีกฝ่ายจะตัดเอาเฉพาะในส่วนเป็นบวกกับตนเองมาเผยแพร่ คลิปส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากคนไทยและทหารไทย เพราะไม่มี ประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เป็นคลิปที่ผู้ไม่หวังดีจากประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้พิจารณาให้ดีว่าต้นคลิปมาจากที่ใด

ลักลอบเข้าไทย เขมรอดอยาก งานไม่มีทํา! แห่ไปเยือน ‘ปราสาทตาเมือนธม’ (คลิป)

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวต่อว่า ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยทหารกัมพูชาอยู่ในเกณฑ์ดีไม่มีปัญหาอะไร มีบ้างที่เราลาดตระเวนเจอกัน หรือบางจุดที่อาจจะปะทะคารมกันบ้าง แต่ไม่ได้ใช้อาวุธหรือมีเหตุรุนแรงจนบานปลาย เราพยายามพูดคุยกันกับพี่น้องผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่โดยตลอดขอให้ใช้สติอย่าใช้อารมณ์ต่อคลิปที่เห็น ขอให้ฟังคำชี้แจงจากกองทัพหรือรัฐบาลเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ตามแนวชายแดน จากนั้น พล.ท.บุญสินได้ร้องเพลง “จดหมายจากแนวหน้า” ของยอดรัก สลักใจ ร่วมกับ “เสถียร ทำมือ” นักร้องเพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิต ก่อนเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 (ค่ายพิทักษ์อุทุมพรเขต)

ส่วนบรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเที่ยวชมปราสาทหลังเสร็จสิ้นการทำบุญตักบาตรในวันอาสาฬหบูชาแล้ว พร้อมมอบสิ่งของให้กำลังใจเหล่าทหาร ตลอดทั้งวันมีผู้มาเที่ยวชม ปราสาทตาเมือนโต๊ดและตาเมือนธมมากกว่าวันปกติ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ทำให้เสื้อที่ระลึกและอาหารการกิน รวมไปถึงลอตเตอรี่ขายดีไปด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยยังให้ความสนใจหมุดจีพีเอสที่อยู่หน้าทางเข้าปราสาทตาเมือนธม มีทหารคอยอธิบายว่าหลักดังกล่าวเป็นแค่หมุดบอกตำแหน่งตัวปราสาทตาเมือนธม ไม่เกี่ยวกับหลักเขตแดนแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ขณะที่ทหารกองกำลังบูรพา หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศและชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 โดยร้อย ทพ.1201 และร้อย ทพ.1206 ลาดตระเวนเชิงรุกในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้จับกุมชาวกัมพูชา 2 กลุ่ม รวม 15 คน ลักลอบเดินเท้าข้ามแดนเข้ามาในไทย กลุ่มแรกจับได้ 9 คน ที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ เป็นชาย 5 คน หญิง 4 คน ทั้งหมดให้การว่า เคยทำงานอยู่ในตลาดโรงเกลือฝั่งไทย เมื่อต้นเดือนมิถุนายนมีการปรับมาตรการผ่านแดน เกรงว่าหากอยู่ต่ออาจเดินทางกลับบ้านไม่ได้ จึงตัดสินใจกลับกัมพูชาไป เมื่อถึงบ้านเกิดต้องเผชิญภาวะขาดแคลนงานอาหารและไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจลักลอบเดินเท้ากลับมาในฝั่งไทย กลุ่มที่สองจับได้ 6 ราย ที่ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน และเด็กหญิงอายุ 2 ขวบ อีก 1 คน โดยผู้นำพา 2 คน วิ่งหลบหนีไปได้ สอบถามกลุ่มนี้ระบุว่า เคยขายเสื้อผ้ามือสองและของใช้ต่างๆที่ตลาดโรงเกลือ และขาดแคลนทุนทรัพย์จึงจำใจกลับประเทศ ต่อมาทราบว่าข้าวของในร้านเสียหายไม่มีคนดูแลร้าน จึงตัดสินใจกลับมาอีกครั้ง โดยจ่ายเงินให้ผู้นำพาคนละ 4,000 บาทในการลักลอบเข้าไทย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก และ สภ.คลองน้ำใส ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *