กลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ด่วน หลัง แม่ทัพภาคที่ 2 ประกาศแผนก่อนเกษียณ อีกเพียง 51 วัน

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ แม่ทัพภาค 2 ได้กล่าวถึงสถานการณ์ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า ตอนสู้รบกันนั้น ฝ่ายทหารกัมพูชาพยายามเข้าไปยึดโดยใช้กำลังเป็นพัน มาภายหลังเกิดการปะทะกัน ฝ่ายไทยเรารักษาปราสาทตาเมือนธมแล้วเราได้ปิดปราสาทและกำลังพิจารณาว่า จะปิดตายหรือปิดบางช่วงไม่ให้ขึ้นซึ่งต้องรอกรรมการฯพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง

ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์กำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา น้องๆกำลังใจดี คนที่บาดเจ็บ พอหายเจ็บก็ขอกลับไปอยู่แนวหน้าอีก ส่วนผมนั้น อายุราชการเหลือ 51 วัน ขอทำหน้าที่แม่ทัพให้ดีที่สุด หลังจากนั้น ยังไม่ได้คิด และมั่นใจในน้องๆ

ล่าสุด กระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2025 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ประกาศแผนเกษียณอายุราชการ อีกเพียง 51 วัน โดยมีการดําเนินการดังนี้

ประการแรก : เพื่อยึดปราสาทตาควายซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมโดยชอบธรรมของกัมพูชา และ ประการที่สอง : ประกาศการปิดปราสาทตาเมือนธม ซึ่งตั้งอยู่ในอํานาจอธิปไตยของกัมพูชา คำกล่าวนี้ถือเป็นหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของความพยายามยั่วยุและวางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อรุกรานอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา

การกระทำดังกล่าวข้างต้นของ แม่ทัพภาคที่ 2 ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และเจตนารมณ์ของการประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ ประเทศมาเลเซีย ในระหว่างการประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งนี้ กัมพูชาและไทยได้ตกลงกันในประเด็นที่ 2 เป็นหลัก ซึ่งระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่เคลื่อนย้ายกำลังพลของตน รวมทั้งงดเว้นการลาดตระเวนเกินตำแหน่งปัจจุบัน

กัมพูชาเน้นย้ำจุดยืนที่มั่นคงในการแก้ไขปัญหาโดยสันติและยึดมั่นในหลักการสันติภาพ และปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด กัมพูชาหวังว่าประเทศไทยจะยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ด้วยความจริงใจ เพื่อแก้ไขข้อพิพาทชายแดนเพื่อฟื้นฟูสันติภาพให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังได้ยื่นคำร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศพันธมิตรที่ได้ทำงานอย่างขยันขันแข็งจนนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้ และขอเรียกร้องให้ประเทศไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิงนี้ ไม่เพียงแต่ด้วยวาจาเท่านั้น แต่ยังต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมด้วย รวมถึงการหยุดยั้งการละเมิดและการยั่วยุทั้งหมด และให้รื้อถอนลวดหนามที่แอบซ่อนอยู่ในดินแดนกัมพูชาโดยทันที

โฆษกยืนยันว่าสถานการณ์โดยรวมที่ชายแดนยังคงสงบ และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเสถียรภาพนี้ต่อไป เพื่อร่วมกันปรับปรุงสถานการณ์นี้ หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจขัดขวางสันติภาพ เสถียรภาพ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนโลกด้วย ซึ่งได้รับการพิสูจน์อย่างชัดเจนผ่านข้อความแสดงความยินดีมากมายและการสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงนี้ เช่นเดียวกับผลลัพธ์เชิงบวกที่เกิดจากการประชุม GBC สมัยพิเศษระหว่างกัมพูชาและไทย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *