เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ออกแถลงการณ์สำคัญ ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวที่มีการพาดหัวข้อข่าว “บำรุงราษฎร์ ซวนเซ! เศรษฐีน้ำมันหายหน้า หุ้นร่วงกว่าครึ่ง” เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 มีรายละเอียดของแถลงการณ์ ดังนี้ ทางโรงพยาบาลฯ ขอถือโอกาสเรียนชี้แจงเกี่ยวกับบทความล่าสุดในหัวข้อ “บำรุงราษฎร์ ซวนเซ! เศรษฐีน้ำมันหายหน้า หุ้นร่วงกว่าครึ่ง” (วันที่ 10 มิถุนายน 2568)
แม้ว่าเราจะเคารพบทบาทของสื่อมวลชนในการให้ข้อมูลแก่สาธารณชน แต่เรามีความกังวลว่า บทความดังกล่าวมีการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และละเลยบริบทที่สำคัญหลายประการ ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ รวมถึงภาพรวมของระบบบริการสุขภาพของประเทศไทย
ตลอดระยะเวลา 45 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำด้านสุขภาพของผู้ป่วยจากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ที่มุ่งแสวงหาการรักษาที่มีคุณภาพสูง มีจริยธรรม ความโปร่งใส และมุ่งเน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
โดยในแต่ละปีมีผู้ป่วยและครอบครัวกว่า 1.1 ล้านคนที่เลือกใช้การบริบาลของโรงพยาบาลฯ ด้วยความมั่นใจในผลลัพธ์ทางการรักษา คุณภาพความปลอดภัยระดับสากล และการดูแลแบบเฉพาะบุคคล
ความไว้วางใจนี้ทำให้เราได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยเป็นโรงพยาบาลแต่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก” โดยนิตยสาร Newsweek ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี และยังได้รับการรับรองในระดับสากลอีกมากมาย
บทความดังกล่าวอ้างถึงรายได้จากผู้ป่วยตะวันออกกลางที่ลดลงนั้น ขาดข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว รายได้สุทธิจากผู้ป่วยในภูมิภาคตะวันออกกลางในปี 2567 เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19
สะท้อนถึงความผูกพัน ความชื่นชอบและความเชื่อมั่นอันยาวนานของผู้ป่วยต่อรูปแบบการดูแลเฉพาะทางของเรา โดยเฉพาะจากประเทศกาตาร์ที่รายได้เพิ่มขึ้นถึง 558% ในช่วงเวลาเดียวกัน แสดงถึงความเชื่อมั่นในระยะยาวจากภูมิภาคดังกล่าว
ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจนที่สะท้อนถึงความเชื่อถือในแบรนด์บำรุงราษฎร์ที่ยังคงมีจากภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังคงหวนกลับมาใช้การบริบาลภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
บทความยังระบุว่าโรงพยาบาลขาดรายได้กว่า 1.3 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งไม่เป็นความจริง
ในความเป็นจริง คือรายได้ที่ลดลงจากผู้ป่วยตะวันออกกลาง รวมถึงคูเวต มีมูลค่ารวมเพียง 551 ล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการปฏิรูประบบนโยบายภายในประเทศของคูเวต ไม่ใช่ปัญหาด้านคุณภาพหรือการบริบาลแต่อย่างใด
ความเห็นดังกล่าวแสดงถึงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
ยิ่งไปกว่านั้น ผลกระทบดังกล่าวได้รับการชดเชยจากรายได้ที่เติบโตขึ้นของตลาดตะวันออกกลางประเทศอื่น ๆ และตลาดต่างประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดจากผลประกอบการต่อหุ้นที่ยังคงเติบโตเมื่อเทียบปีต่อปี
ในขณะเดียวกัน บทความกล่าวอ้างว่า ไม่มีผู้ป่วยจากคูเวตเลย ในความเป็นจริง ประมาณ 30% ของผู้ป่วยชาวคูเวตได้กลับมาใช้บริการของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อีกครั้งในปี 2567 ซึ่งสร้างรายได้กว่า 416 ล้านบาท
ขณะที่ผู้ป่วยจากกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงเดินทางมาเข้ารับการรักษา โดยเฉพาะในอาการที่ซับซ้อนและต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
เหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล ทั้งในด้านคุณภาพและผลลัพธ์ทางคลินิก
การที่บทความแสดงทัศนะ และมีข้อด่วนสรุปว่าผู้ป่วยจากตะวันออกกลางเปลี่ยนโรงพยาบาลเพราะประเด็นอ่อนไหวด้านราคานั้น อาจไม่สะท้อนถึงพฤติกรรมทั้งหมดของการตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลฯ ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ เพราะไม่ได้คำนึงถึงองค์ประกอบอื่น
เช่น ความหลากหลายของความต้องการทางการแพทย์ ความคาดหวัง ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทางวัฒนธรรม และประสบการณ์จนถึงจริตส่วนบุคคล ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจในการเลือกสถานพยาบาลของผู้ป่วยกลุ่มนี้ มากกว่าการมองจากมิติด้านราคาเพียงอย่างเดียว
ตลอดเวลากว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สามารถฝ่าฟันความท้าทายทั้งในระดับโลกและในประเทศได้อย่างมั่นคง ด้วยการดำรงในจุดยืนที่ชัดเจน มีความรอบคอบ และการยึดมั่นในพันธกิจในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ป่วย
เราเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์การแข่งขัน พัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ และแนวโน้มใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้เรายังคงเป็นผู้นำในทางสุขภาพในระดับโลก
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ไม่เคยหยุดนิ่ง เราพร้อมปรับตัวอย่างยืดหยุ่นและตอบสนองได้ทันสถานการณ์ เพื่อคว้าโอกาสที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วยและเป้าหมายด้านการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของเราภายใต้กรอบความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย (Thai-Saudi CCHI) โดยเราได้เล็งเห็นศักยภาพของความร่วมมือที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ และได้รับเชิญให้เข้าร่วมบรรยายในสัมมนาด้านสุขภาพ ณ กรุงริยาด
ขณะนี้ เราอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสูงเพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยชาวซาอุดีอาระเบียที่มีสิทธิประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นความริเริ่มที่คาดว่าจะสนับสนุนการเติบโตเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวของเรา พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับแหล่งรายได้ของเรา
ท้ายที่สุด แม้ว่าเราจะยินดีรับฟังความสนใจจากสาธารณชน และเปิดกว้างต่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่สร้างสรรค์
แต่ข้อกล่าวอ้างในบทความเกี่ยวกับผู้ป่วยชาวตะวันออกกลาง การวิเคราะห์ด้านการเงิน และการเปรียบเทียบราคานั้น ยังสะท้อนภาพที่ไม่ครบถ้วน เกี่ยวกับความซับซ้อนของธุรกิจการบริการสุขภาพ และบริบทในระดับมหภาคที่เราดำเนินงานอยู่
การเชื่อมโยงราคาหุ้นของเรากับข้อสันนิษฐานที่นำเสนอในบทความนั้น จึงไม่มีพื้นฐานข้อเท็จจริงรองรับ และถือเป็นตรรกะที่คลาดเคลื่อน ซึ่งมองข้ามปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ชื่อเสียงระดับโลก และกลยุทธ์เชิงรุกระยะยาวของบำรุงราษฎร์
เรายังคงยึดมั่นในหลักความโปร่งใส และมุ่งมั่นเพื่อสุขภาวะที่ดีในระยะยาวของผู้ป่วยและชุมชนที่เราให้บริการเสมอมา
ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ นภัส เปาโรหิตย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์