ปฏิบัติการเชิงรุก ปูพรมค้น-บุกจับ Sex Creator หนึ่งในนั้นลวงเด็กชายค้ากาม ถูกรวบก่อนชิ่งหนีไปต่างประเทศ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.)
ร่วมกันจับกุม
ผู้ต้องหาที่ 1 นายอชิรวัตติ์ ฯ อายุ 31 ปี (หมายจับศาลอาญาที่ 2851/2568)
ผู้ต้องหาที่ 2 นายสุทธิเจตน์ ฯ อายุ 37 ปี (หมายจับศาลอาญาที่ 2852/2568)
ผู้ต้องหาที่ 3 นายพงศ์พล ฯ อายุ 19 ปี (หมายจับศาลอาญาที่ 2850/2568)
ผู้ต้องหาที่ 4 นางสาวฉัตรลดา ฯ อายุ 32 ปี
ผู้ต้องหาที่ 5 นายณัฐวัตน์ ฯ อายุ 32 ปี
ผู้ต้องหาที่ 6 นางสาวปวริศา ฯ อายุ 26 ปี
ผู้ต้องหาที่ 7 นายรรรณกาญ ฯอายุ 27 ปี
ผู้ต้องหาที่ 8 นางสาวสุทธิดา ฯ อายุ 26 ปี
ผู้ต้องหาที่ 9 นายชัชวาลย์ ฯ อายุ 41 ปี
ผู้ต้องหาที่ 1,2 ในความผิดฐาน “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใดหน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกฯ”
ผู้ต้องหาที่ 3 ในความผิดฐาน “ค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยว กักขังจัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีฯ”
ผู้ต้องหาที่ 4-9 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียงแถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.287(1)”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.เสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในขณะกระทำความผิด จำนวน 3 ชุด
2.โทรศัพท์มือถือจำนวน 9 เครื่อง
3.สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 3 เล่ม
4.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริม จำนวน 7 ชิ้น
สถานที่จับกุม
ผู้ต้องหาที่ 1 : สถานที่จับกุม บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน กรุงเทพมหานคร
ผู้ต้องหาที่ 2 : สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนสาธารณะใน จ.ชลบุรี
ผู้ต้องหาที่ 3 : สถานที่จับกุม บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม
ผู้ต้องหาที่ 4,5 : สถานที่จับกุม บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์
ผู้ต้องหาที่ 6 : สถานที่จับกุม บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร
ผู้ต้องหาที่ 7,8 : สถานที่จับกุม บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น
ผู้ต้องหาที่ 9 : สถานที่จับกุม บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 ได้รู้จักกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ของกลุ่ม LGBTQ จนสนิทสนมกัน ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 มีรสนิยมในการร่วมเพศแบบชายรักชาย จากนั้นได้มีการวางแผนโดยแบ่งหน้าที่กันทำ โดยผู้ต้องหาที่ 3 ทำหน้าที่หลอกล่อเด็กชาย โดยการที่จะตระเวนหาเหยื่อเด็กชายอายุประมาณ 12-14 ปี ที่ครอบครัวแตกแยกในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง ชักชวนให้เด็กชายมาพักอาศัยอยู่ด้วยกันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย มาอยู่ที่รีสอร์ท
จากนั้นจึงเริ่มใช้การบีบบังคับให้เหยื่อเด็กชายไป “ขายบริการทางเพศ” ให้กับผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 หากเด็กชายไม่ยอมทำตาม ก็จะถูกข่มขู่ว่าจะไล่ออกจากกลุ่ม ไม่คบเป็นเพื่อนอีกต่อไป และไม่ให้อาศัยอยู่ด้วยกันฟรีที่รีสอร์ท ซึ่งเป็นการใช้สภาพความเปราะบางของเด็กที่ไม่มีที่พึ่งพิง มาเป็นเครื่องมือในการควบคุมและบีบบังคับอย่างเลือดเย็น โดยผู้ต้องหาที่ 3 จะได้ประโยชน์ค่านายหน้าจากการนำเหยื่อเด็กชายไปขายบริการทางเพศให้ผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 เมื่อผู้ต้องหาที่ 3 นำเหยื่อเด็กชายมาส่งให้ผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 กระทำอนาจารตามรีสอร์ท ในพื้นที่ จ.นครปฐม แล้ว ผู้ต้องหาที่ 1 จะทำหน้าที่เป็นนักแสดงกระทำอนาจารเด็กชายสร้างคอนเทนต์ ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 มีรสนิยมชอบปลุกเร้าอารมณ์ตนเองด้วยการบังคับให้เหยื่อเด็กชายสวมใส่ชุดนักเรียนในการร่วมเพศ หากเหยื่อเด็กชายขัดขื่นไม่ยอมใส่ชุดนักเรียน ผู้ต้องหาที่ 1 จะบีบบังคับโดยการหักค่าตัวที่มาขายบริการทางเพศ หรือจะไม่ให้เงินค่าตัว ทำให้เหยื่อเด็กชายต้องจำยอมสวมใส่ชุดนักเรียนในการร่วมเพศ
ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ทำหน้าที่ถ่ายคลิปวิดีโอ เพื่อให้ผู้ต้องหาที่ 1 นำไปประกาศเชิญชวนกลุ่มผู้สนใจบนแพลตฟอร์ม X ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก ให้เข้ากลุ่มไลน์ลับ โดยมีการเก็บค่าบริการเข้าชมคลิปกระทำอนาจารจากลูกค้าผู้สนใจ และบางครั้งผู้ต้องหาที่ 2 จะทำหน้าที่เป็นนักแสดงอีกบทบาทหนึ่ง สลับกับผู้ต้องหาที่ 1
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้สืบสวนขยายผลจนสามารถออกหมายจับผู้กระทำความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ และจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งก่อนถูกจับกุมทั้งผู้ต้องที่ 1 และผู้ต้องที่ 2 ต่างรู้ว่าเหยื่อเป็นเด็กชายจำนวน 2 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือคุ้มครองไปก่อนหน้านี้ จึงวางแผนที่จะเดินทางไปทำงานนวดยังประเทศโอมาน แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหาที่ 1 นั้น ตรวจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือโรคซิฟิลิส เป็นเหตุให้ทำวีซ่าไม่ผ่าน ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 2 อยู่ระหว่างการยื่นทำขอวีซ่า และจากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า ได้กระทำความผิดตามพฤติการณ์นี้มาแล้วกว่า 3 ปี
จากการสืบสวนเครือข่ายกลุ่ม LGBTQ ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. เล็งเห็นว่าการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกนำไปสู่ปัญหาอื่นที่ร้ายแรง จึงได้ปฏิบัติการเชิงรุกปูพรมตรวจค้นในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จ.นครปฐม และภาคอีสาน จำนวน 6 จุด นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหารวมทั้งหมด 9 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับค้ามนุษย์ฯ จำนวน 3 ราย และได้จับกุมผู้ต้องหาที่ผลิตและเผยแพร่สื่อลามก จำนวน 6 ราย
ขณะที่การจับกุมผู้ต้องหาที่ 4 พบว่าเป็นพยาบาลสาว โรงพยาบาล ชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ และเป็นภรรยาของผู้ต้องหาที่ 5 ซึ่งผู้ต้องหาที่ 4 และ 5 มีรสนิยมในการร่วมเพศแบบสวิงกิ้ง และผู้ต้องหาที่ 5 จะทำหน้าที่ในการหาชายอื่นที่สนใจจะมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาของตน มาให้ภรรยาเลือก เมื่อภรรยาหรือผู้ต้องหาที่ 4 เลือกแล้ว ก็จะถ่ายทำสื่อลามกแบบสวิงกิ้งไว้ โดยผู้เป็นสามีหรือผู้ต้องหาที่ 5 จะนำคลิปดังกล่าวไปประกาศชักชวนผ่านแพลตฟอร์ม X เชิญชวนเข้ากลุ่มลับโดยมีการเก็บค่าบริการ นอกจากนั้นยังมีการจับกุมผู้ต้องหาอื่นในพฤติการณ์เดียวกันอีก
ด้านผู้ต้องหาที่ 6,7 เป็นสามีภรรยาเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม X ก็มีรสนิยมเดียวกันกับผู้ต้องหาที่ 4 และ 5 คือสามีจะทำหน้าที่ถ่ายคลิปสื่อลามก และมีความชอบที่เห็นภรรยาของตนร่วมเพศกับชายอื่น
ผู้ต้องหาที่ 8 เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม X และผู้ต้องหาที่ 9 เป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม X เช่นเดียวกันซึ่งจากการปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า มียอดผู้ติดตามแพลตฟอร์ม X ทั้งหมดรวมกว่า 13 ล้านบัญชี และยังตรวจสอบพบเงินหมุนเวียนของผู้ต้องหารวมกว่า 10 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องที่ 1,2,3 ส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. ผู้ต้องหาที่ 4และ5 นำส่ง สภ.เมืองบุรีรัมย์ ผู้ต้องหาที่ 6,7 ส่งสภ.เมืองขอนแก่น ผู้ต้องหาที่ 8 นำส่ง สภ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร และผู้ต้องหาที่ 9 สภ.เมืองอุดรธานี
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1,3 และ 4-9 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา