เลี้ยงกระแสชาตินิยม “ฮุนเซน” ปั่นไอโอยั่วยุ “กองทัพภาคที่ 2” ย้อนรอย 28 ปี หักหลังฝ่ายเจ้า ดิงเขมรแดงเป็นพวก

เลี้ยงกระแสชาตินิยม “ฮุนเซน” ปั่นไอโอยั่วยุ “กองทัพภาคที่ 2” ย้อนรอย 28 ปี หักหลังฝ่ายเจ้า ดึงเขมรแดงเป็นพวก

กลเกม ฮุนเซน ส่งอดีตเขมรแดงยั่วยุทหารไทย ปั้นฮีโร่แนวหน้าเลี้ยงกระแสชาตินิยม รอจังหวะการเมืองไทยเปลี่ยนผู้นำ

สื่อกัมพูชาร่วมย้อนรอบ 28 ปี แผนโค่นฮุนเซน โดยกองทัพของเจ้ารณฤทธิ์สมคบเขมรแดง แต่ปฏิบัติการไม่สำเร็จ กลายเป็นกบฏ

28 ปีที่แล้ว สื่อต่างประเทศให้ฉายาฮุนเซนว่า “จิ้งจอกพนมเปญ” หลังก่อรัฐประหารกำจัดเจ้านโรดมรณฤทธิ์ และปราบกองทัพฟุนซินเปคสำเร็จ 

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2568 สำนักข่าว Fresh News กระบอกเสียงของสมเด็จฮุน เซน ได้นำเสนอรายงานพิเศษครบรอบ 28 ปี ชัยชนะของฮุนเซน เหนือกองทัพของพรรคฟุนซินเปคและทหารเขมรแดง

 

 

ความปราชัยของพรรคฟุนซินเปคในวันนั้น ทำให้อดีตทหารเขมรแดง ในพื้นที่ จ.พระวิหาร จ.อุดรมีชัย และ จ.ไพลิน เข้าสวามิภักดิ์ต่อฮุนเซน เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว

 

 

ดังนั้น ทหารกัมพูชาที่เคลื่อนพลมาเผชิญหน้าทหารไทย ตามแนวชายแดนด้านช่องบก และปราสาทพระวิหารในเวลานี้

ส่วนใหญ่เป็นทหารเขมรแดงเก่า 

อดีตทหารเขมรแดงเหล่านี้จะมีอายุ 40 ปีขึ้นไป อย่างเช่นจ่าทหารนายหนึ่ง วัย 72 ปี ที่กำลังโด่งดังในโซเชียล หลังเกิดเหตุปะทะคารมกับทหารพรานไทยที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

 

เล่ห์ลึก “ฮุนเซน” ดันเขมรแดงชน “กองทัพภาค 2” ฉลอง 28 ปี หักหลังฝ่ายเจ้า

ทหารสูงวัยเหล่านี้คือ อดีตทหารเขมรแดง ที่ฮุนเซนใช้ประจำการแนวหน้า

 

 

ไอโอเลี้ยงกระแสชาตินิยม

 

เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2568 สำนักข่าว Fresh News ได้รายงานข่าว ทหารกัมพูชาได้ปะทะคารมกับทหารไทยที่รุกล้ำเขตแดนกัมพูชาที่บริเวณภูผี จ.พระวิหาร

 

Fresh News ยังเผยแพร่คลิปทหาร 2 ฝ่ายต่างโต้เถียงกัน และในภาพมีทหารสูงวัยนายหนึ่งแบกเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี มีท่าทางเตรียมบู๊ทหารไทย

 

โดยระบุชื่อว่า พ.ท.อุกเกีย แต่สื่อเขมรอีกหลายสำนักบอกว่า มียศจ่าทหาร วัย 72 ปี

อย่างไรก็ตาม คลิปทหารเขมรสูงวัยออกอาการฮึดฮัดไม่พอใจ ถึงขั้นจะยิงจรวดอาร์พีจี กลายเป็นไวรัล เชิดชูวีรบุรุษผู้รักชาติรักแผ่นดินทางฝั่งกัมพูชา

 

 

 

ด้านกองทัพภาคที่ 2 ได้ออกข่าวชี้แจงว่า ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 2304 ตรวจพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารกัมพูชา บริเวณจุดชมวิวภูผี ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จึงเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจ

แหล่งข่าวในกองทัพภาคที่ 2 ตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นกระบวนการไอโอจากฝั่งกัมพูชา เพราะมีการเซ็ตฉากถ่ายคลิป ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน แสดงความฮึกเหิมของทหารกัมพูชา

 

 

หักเหลี่ยมล้มเจ้ารณฤทธิ์

 

 

จุดเปลี่ยนของทหารเขมรแดง ที่แปรพักตร์เข้าร่วมกับกลุ่มเฮงสำริง-ฮุนเซน มาจากการรัฐประหาร 5 ก.ค.2540

 

เริ่มต้นจากปี 2534 กลุ่มการเมืองจากกัมพูชา 4 กลุ่ม คือ เขมรสีหนุ เขมรเฮง สำริน เขมรแดง และเขมรเสรี ลงนามในข้อตกลงปารีสเพื่อยุติสงครามกลางเมือง

ปี 2536 UNTAC (องค์การบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในกัมพูชา) ดำเนินการจัดการเลือกตั้งในกัมพูชา โดยฝ่ายเขมรแดงไม่ยอมวางอาวุธ และไม่ให้ประชาชนในเขตที่มั่นของตนเองไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคฟุนซินเปก ของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ ได้รับชัยชนะเหนือพรรคประชาชนกัมพูชา ของฮุน เซน ด้วยคะแนนเสียง 58 ต่อ 51 จากทั้งหมด 120 ที่นั่ง

 

ต่อมา พรรคประชาชนกัมพูชา ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และได้ประกาศแยกจังหวัดทางภาคตะวันออกของกัมพูชาเป็นดินแดนอิสระ

เจ้านโรดม จักรพงษ์ น้องชายเจ้ารณฤทธิ์ ปลุกระดมประชาชนที่จังหวัดสวายเรียง ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยหวังจะได้รับความร่วมมือจากกลุ่มฮุนเซนโค่นพี่ชายต่างมารดา

 

 

สุดท้าย กลุ่มฮุนเซน หักหลังเจ้าจักรพงษ์ หันไปจับมือเจ้ารณฤทธิ์ สกัดการก่อการยึดอำนาจ และได้จัดตั้งรัฐบาลผสม โดยเจ้ารณฤทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 และฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2

 

 

ระหว่างนั้น เจ้ารณฤทธิ์ มอบให้ พล.อ.ญึก บุญชัย จัดตั้งกองทัพของพรรคฟุนซินเปค และแสวงความร่วมมือกับทหารเขมรแดง กลุ่มเขียว สัมพัน และตา ม็อก มีฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองอันลองเวง จ.อุดรมีชัย

 

ฝ่ายฮุนเซน ได้หันไปพึ่งเวียดนามช่วยฝึกกำลังทหาร และสนับสนุนอาวุธก่อตั้ง “กองพลน้อยที่ 70” แถวภาคตะวันออกของกัมพูชา

 

 

วันที่ 5 ก.ค.2540 นายกฯฮุน เซน สั่งเคลื่อนกำลังทหารกองพลน้อยที่ 70 เข้ายึดพนมเปญ โดยข้ออ้างปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะเจ้ารณฤทธิ์สมคบเขมรแดง เตรียมแผนก่อการยึดอำนาจ

 

 

ในที่สุด กลุ่มฮุนเซน เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ เจ้ารณฤทธิ์หนีออกกัมพูชาไปลี้ภัยอยู่ที่ฝรั่งเศส และทหารของพรรคฟุนซินเปค ถูกฆ่าและจับเป็นเชลยศึก

 

หลังจากนั้น ผู้นำเขมรแดงแปรพักตร์เข้าร่วมกับกลุ่มฮุนเซน และทหารเขมรแดง ได้เปลี่ยนเครื่องแบบเป็นทหารกองทัพแห่งชาติกัมพูชา 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *