กระชากจีวร หลวงตาอนาจารเด็ก 6 ขวบ แม่รู้ความจริงหัวใจสลาย

วันที่ 6 กันยายน 2568 แม่ร้องมูลนิธิเป็นหนึ่ง ลูกสาววัย 6 ขวบ ถูกพระกระทำอนาจาร โดยมีคุณแม่ท่านหนึ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือและเล่าเรื่องราวว่า ขอความช่วยเหลือ ลูกสาววัย 6 ขวบถูกพระกระทำอนาจาร แม่เพิ่งทราบเรื่องวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา เหตุเกิด 2 พื้นที่ คนละเดือน

วันแรกที่เกิดเหตุ วันที่ 4 สิงหาคม 2568 แม่ได้ไปขายของที่ตลาดนัด ในวัดแห่งหนึ่ง แม่นั่งขายของอยู่ ซึ่งแม่จะขายผลไม้ และลูก ๆ สองคนจะเล่นอยู่ข้าง ๆ ร้าน

อยู่ ๆ มีหลวงตาท่านหนึ่งได้เดินมาซื้อของ แล้วเห็นลูกสาววัย 6 ขวบของแม่ และหลวงตารูปนี้ก็ชักชวนลูกสาวให้ไปเอาขนม ให้เดินไปเอาของในกุฏิกับหลวงตาค่ะ ซึ่งแม่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะมีเด็ก ๆ คนอื่นอยู่บริเวณนั้นด้วย น้องได้เดินเข้าไปกับลูกชายวัย 3 ขวบ ประมาณ 10 นาที

น้องก็เดินออกมาและมีขนมที่หลวงตาให้น้องมา พอได้ของมาจึงเดินออกมาเอาของมาให้แม่ที่ร้าน และหลวงตาก็เดินตามน้องมา และได้พูดคุยกับแม่ว่า ให้เด็ก ๆ ไปเล่นรอในกุฏิได้นะ ตรงนี้ติดถนนกลัวรถจะชนเอา ซึ่งแม่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรด้วย เพราะขายของอยู่

หลวงตาได้ชวนน้องเข้าไปเล่นในกุฏิของหลวงตาอีกรอบหนึ่ง (ตอนนั้นแม่ไม่ทราบว่าหลวงตามาชวนน้องไปอีก) และน้องได้หายไปสักพักใหญ่ ในช่วงเวลาที่น้องหายไปพ่อและแม่และคนในตลาดก็ตามหาน้อง แต่ก็ไม่พบน้องค่ะ ว่าน้องไปอยู่ที่ไหน จนกระทั่งน้องได้เดินออกมาเอง

สักพักหลวงตาก็เดินออกมาก็มาพูดคุยกับแม่ มาบอกแม่ว่าน้องปวดถ่ายเลยให้น้องไปถ่ายในห้องน้ำในกุฏิแล้วหลวงตาก็เอาน้ำล้างให้ลูกสาว แล้วทีนี้หลวงตาก็ถามแม่ว่าแม่เป็นคนที่ไหน อาศัยอยู่หมู่บ้านอะไร

พอจากนั้นประมาณอีก 2-3 วัน หลวงตาได้มาถามหาบ้านแม่และน้องที่แม่อาศัยอยู่ แล้วชาวบ้านเขาก็บอกว่าหลวงตามาถามหานะแล้วเขียนเบอร์โทรไว้ให้ติดต่อกลับไปหาหลวงตาด่วน หลวงตาว่าจะสั่งผลไม้กับแม่ แม่ก็เลยโทรกลับไป แม่ก็เลยบอกว่า จะเอาผลไม้ใช่ไหม หลวงตาบอกว่าได้แล้ว มีโยมมาถวายให้แล้ว

หลังจากนั้นหลวงตาก็โทรติดต่อแม่มาเรื่อย ๆ บอกแม่ว่าถ้าจะไปไหนไปธุระอะไรให้เอาน้องไปฝากที่หลวงตาได้ หลวงตาจะดูแลให้ แต่แม่ก็ไม่เคยเอาไปให้หลวงตาเลย

วันที่ 16 สิงหาคม 2568 หลวงตาได้โทรหาแม่และถามแม่ว่า แม่ไปขายของอยู่ที่ไหน แม่ก็เลยบอกไปว่าแม่ขายของอยู่ที่วัด แล้ววันนั้นหลวงตาได้ขับรถมาแล้วบอกว่ามีขนมมาให้เด็ก ๆ พอมาถึงบอกให้ไปเอาขนมที่รถ หลวงตาขับรถเก๋งมา แล้วทีนี้หลวงตาได้ขยับรถเก๋งไปจอดที่ข้างต้นโพธิ์ของลานวัด แล้วหลวงตาโทรมาบอกแม่ว่าให้ซื้อนมเย็นไปให้ 1 แก้วแล้วสั่งด้วยว่าให้น้องเอาไปให้ที่รถ ตอนนั้นแม่ไม่ได้เอะใจอะไร พอสั่งน้ำที่ร้านข้าง ๆ กันไปให้ ก็ให้ลูกสาวกับลูกชายเอาไปให้ที่รถ

ซึ่งวันนั้นจะมีน้องชาย (ลูกชายวัย 3 ขวบอีกคน) เข้าไปอยู่ในรถด้วยกัน พอผ่านไปสักพักใหญ่ เด็ก ๆ ก็ลงจากรถมาหาแม่ น้องยังไม่มีท่าทีที่ผิดปกติอะไร จนกลับบ้านน้องบ่นว่าเจ็บตรงอวัยวะเพศ แม่ก็พาน้องไปอาบน้ำ และดูตรงอวัยวะเพศน้องแดง แม่ก็คิดว่าน้องเป็นผื่นคันเพราะอากาศร้อน จึงไม่คิดอะไร เลยทาแป้งให้แค่นั้น

“พอหลังจากวันนั้นหลวงตาก็พยายามโทรหาแม่มาโดยตลอด จนถึงวันที่ 2 กันยายน น้องมาเล่าให้แม่ฟัง เวลาประมาณ 21:00 น. น้องบอกแม่ว่าหลวงตาได้หอมส่วนลับหนูและใช้ฟันกัดส่วนลับหนูแล้วน้องก็บอกว่าน้องเจ็บน้องบอกหลวงตาหลายรอบแต่หลวงตาไม่หยุดทำ แล้วก็บอกด้วยว่าห้ามมาบอกแม่หรือบอกใคร ๆ หลวงตาจะตีให้ตายและไม่รักหนู หนูหัวใจสลายมากค่ะ ไม่คิดว่าหลวงตาจะทำแบบนี้กับเด็ก ขอให้ทางมูลนิธิช่วยลูกสาวหนูด้วยนะคะ”

วันศุกร์ ที่ 5 กันยายน 2568 มูลนิธิเป็นหนึ่งลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก และกรมคุ้มครองสิทธิ์กระทรวงยุติธรรม

กรมคุ้มครองสิทธิ์รับดูแลเบื้องต้น โดยจะรอให้ตำรวจออกเอกสารและทางกระทรวงยุติธรรมดูแลยื่นเรื่องสิทธิ์เงินเยียวยา

ทาง พมจ. จังหวัดพิษณุโลก จะดูแลเรื่องการตรวจร่างกายและสภาพจิตใจน้อง ถ้าทางคุณแม่ยังไม่สบายใจและห่วงความปลอดภัยของเด็ก ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวยินดีรับน้องเข้ารับคุ้มครองในบ้านพัก ระหว่างรอเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพสอบ ป.วิอาญา เด็ก

ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นในส่วนของเด็ก จะมีการสอบเด็กเพิ่มเติมเพื่อเตรียมสำนวนในการขอศาลออกหมายจับกับหลวงตา

15:00 น. ตำรวจได้เข้าจับกุมหลวงตาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยศาลแขวงนครไทย อนุมัติหมายจับ 3 ข้อหา

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 : กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและกระทำโดยการข่มขู่ โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 : ผู้ใดพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 : ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร”

ขอขอบพระคุณ พ.ต.อ. สมบูรณ์ สีแดง ผกก. สภ. นครไทย ที่ไม่นิ่งนอนใจให้ความร่วมมือช่วยเหลือและทำงานอย่างรวดเร็ว ขอศาลออกหมายจับทันที

และขอขอบพระคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ประสานงานช่วยเหลือผู้เสียหายในวันนี้

• เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.พิษณุโลก
• เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ จ.พิษณุโลก
• เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิ์
• กระทรวงยุติธรรม จ.พิษณุโลก
• พระผู้ใหญ่เจ้าคณะอำเภอนครไทย
• ผอ. สำนักพุทธ จ.พิษณุโลก
• ปลัดอำเภอนครไทย
• ทีมปกครองท้องถิ่น
• รวมถึงขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม