ขนลุก เจนี่ ควบคุมตัวเองไม่ได้ในบางช่วงที่ถ่ายรายการ ส้มเช้ง ต้องคอยเรียกสติ

จากนั้นส้มเช้งถามเจนี่ว่าทำไมถึงมาออกรายการ อ.โอเล่ เจนี่ตอบว่า “คงรู้สึกว่าเห็นอะไรบางอย่างตอนที่ดูรายการแล้วเหมือนมีอะไรบางอย่างบอกเจน เจนเป็นคนที่ไม่ดูอะไรพวกนี้และไม่เชื่อเลย ด้วยความที่คือเจนี่ แต่ก่อนจะบอกคนอื่นเสมอว่าอย่างมงาย แค่ไหว้พระสวดมนต์ก็พอ

เจนไม่เอาเรื่องอะไรพวกนี้เลย เอาง่ายๆ คือไม่เชื่อ ยังไงก็ไม่มีทางเชื่อ ถ้าไม่รู้สึกอะไรบางอย่าง จนได้ผ่านการเจอในแบบรูป รส กลิ่น เสียง ถ้าไม่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างไม่มีวันที่จะเชื่อเลย

วันนั้นได้เห็นอาจารย์โอเล่ แล้วอะไรบางอย่างในตัวเจนเหมือนรู้สึกคอนเนกกับความรู้สึกอาจารย์ เจนเลยให้เลขาติดต่ออาจารย์ให้หน่อย เพราะอยากจะคุยด้วย

จนต้นปีได้มาเจออาจารย์แล้วรู้สึกคุยกันถูกคอ บางอย่างเจนคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง แต่เจนคุยกับอาจารย์แล้วเข้าใจกัน บางอย่างไม่เคยบอกใครเลยแต่คุยแล้วสามารถรู้เรื่องได้ เทปนี้เจนไม่เคยไปรายการไหนแล้วอยากจะบอกซึ่งก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกอะไร

มันเป็นเรื่องที่บางทีรู้สึกจุกข้างใน การที่เราสื่อสารอะไรพวกนี้ออกมาต้องระวังมากๆ บางสิ่งบางอย่างเป็นเรื่องของความเชื่อ เจนว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ภายใต้ความจริง สัจธรรม เรางมงายไม่ได้เลยเพราะเจนเองก็มีลูก มีครอบครัวมันต้องอยู่ในระดับนึงและเราปฏิบัติด้วยควบคู่กันไป”

ด้วยเจนไม่เคยเจออะไรแบบนี้ มันก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าพอสวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตาไปก็จะดีขึ้น เพราะถ้าไม่ทำก็จะมาเป็นไส้เดือนเลย พวกนี้บางทีเขาจะแฝงมาแบบทุกที่ ก็จะเห็นทั่วเลย ทั้งบนอากาศแล้วเขาจะมาได้ง่ายมากถ้าใจเราเปิดออก ฉะนั้นเราต้องปิด”

จากนั้น เจนี่ พร้อมด้วย อ.โอเล่, ส้มเช้ง และทีมงาน ได้เดินทางไปยังพระพุทธบาทบัวบาน เพื่อตามหาเบาะแสจากสิ่งลี้ลับมาสื่อ ระหว่างที่ทั้ง 3 คนกำลังคุยกัน เจนี่หันมาสบตาอาจารย์ อาจารย์จึงบอกตรงโน่น 3 ตัว จากนั้นเจนี่ก็หันหน้าหนี ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จากการที่มีสิ่งลี้ลับมาแฝง ส้มเช้งต้องคอยเอามือแตะขาเจนี่เพื่อเรียกสติกลับมา

และก่อนจบรายการทางรายการได้ฉายตัวอย่างตอนต่อไปต่อไป อ.โอเล่ ได้พูดบางอย่างหลังสื่อสาร บอกเจนี่ว่า “กูจะไม่ให้มึงมี…” ก่อนตัดจบรายการไป