บอร์ดประกันสังคม มีมติเอกฉันท์ เห็นชอบปรับสูตรคำนวณบำนาญ รักชนก-สหัสวัต ยินดีมติบอร์ดประกันสังคมคืนความเป็นธรรมผู้ประกันตน เตรียมผลักดันแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม
11 มี.ค.68 ความคืบหน้ากรณี คณะกรรมการประกันสังคม หรือ บอร์ดประกันสังคม ประชุมจะพิจารณาเห็นชอบวาระ เรื่อง การปรับสูตรบำนาญชราภาพ ให้กับผู้ประกันตน ม.33และ ม. 39 หรือไม่ ?
ภายหลังการหารือกว่า 3 ชม. นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม แถลงว่า ในวันนี้มีการประชุมบอร์ดประกันสังคมที่มีการหารือร่วมกัน 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายราชการ และยังมีประธานอนุสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน โดย วันนี้ มีข่าวดีกับทุกท่านว่า ท่านประธานบอร์ดประกันสังคม นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดประกันสังคม เห็นชอบรับหลักการปรับสูตรบำนาญให้กับผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 และมาตรา 39 โดยมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมกลับไปทำรายละเอียดเพิ่มเติม


หลังการประชุมเสร็จสิ้น ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี คณะกรรมการบอร์ดประกันสังคมฝ่ายผู้ประกันตน ได้ร่วมแถลงกับบอร์ดถึงผลการประชุม โดยระบุว่า มติวันนี้ถือเป็นข่าวดีของผู้ประกันตนและนายจ้างที่จะสามารถเพิ่มสวัสดิการให้ผู้ประกันตนได้อย่างเป็นธรรม ด้วยการปรับสูตรคำนวณบำนาญจากการคำนวณค่าจ้างเฉลี่ยในช่วง 60 เดือนสุดท้าย (5 ปี) มาเป็นการเฉลี่ยค่าจ้างตลอดอายุการทำงานแทน
และมีการปรับตามอัตราค่าเงินพร้อมการปรับฐานเงินเดือน โดยกระบวนการต่อจากนี้จะเข้าสู่การทำประชาพิจารณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันตามกรอบกฎหมาย ถือว่าสามารถเดินตามก้าวที่วางไว้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ประกันตน โดยเฉพาะตามมาตรา 39 และมาตรา 33 ส่วนหนึ่งที่สูญเสียเงินค่าจ้างในช่วงท้ายของการสมทบ
นายษัษฐรัมย์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่จะผลักดันต่อไปคือ พ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับใหม่ที่จะทำให้ประกันสังคมเป็นองค์กรอิสระ ไม่อยู่ภายใต้ระบบราชการที่ทำให้การได้รับสิทธิประโยชน์และการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์มีความล่าช้าแบบทุกวันนี้ ความสำเร็จวันนี้ได้มาเพราะเสียงของประชาชน สื่อมวลชน และนักการเมืองที่ยึดโยงกับประชาชน

ในส่วนของสหัสวัตระบุว่า มติเรื่องนี้เป็นแค่การทวงความยุติธรรมคืนให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 แต่ปัญหาของการคิดบำนาญเป็นแค่ส่วนหนึ่งของอีกร้อยพันปัญหาในสำนักงานประกันสังคม ปัญหาจริงคือโครงสร้างที่ไม่เปิดให้มีการตรวจสอบ และไม่ให้ผู้ประกันตนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ อยู่ใต้กรอบการทำงานแบบราชการ ที่อืดอาด ไม่คล่องตัว ตรวจสอบยาก และผู้ประกันตนไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาหลายปัญหาในสำนักงานประกันสังคมอย่างที่รู้กันวันนี้


ในส่วนของ รักชนก ระบุว่า การคืนความเป็นธรรมถึงแม้จะล่าช้า แต่ก็เป็นก้าวแรกที่สำนักงานประกันสังคมยอมขยับขยาย ก้าวเปลี่ยนให้ทันตามความต้องการของผู้ประกันตน แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อสำเร็จเรื่องนี้แล้วจะจบสิ้นไปเลย ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องมีการติดตามในสำนักงานประกันสังคมกันต่อไป
cr.ภาพ สุรสิทธิ์ รัศมีกิตติกุล (Surasit Ratsameekittikul)
NationPhoto