ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมหนุ่มดอยแม่สลอง คนไทยขายชาติ พบเป็นตัวการฟอกเงินให้แก๊ง Call Center กว่า 70 แก๊ง ตุ๋นคนไทยวันละ 30 ล้านบาท
วันที่ 11 มี.ค.68 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แถลงจับกุม นายบุรพลฯ ตัวการสำคัญในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่แปลภาษาให้บอสชาวจีน, เช็กแอปธนาคารที่บัญชีม้าเปิดมา, สแกนหน้าบัญชีม้าเพื่อโอนเงิน, เปลี่ยนเงินจากเงินสดในบัญชีม้าเป็นเงินดิจิทัลสกุล USDT ผ่านแอปพลิเคชันคริปโตเคอเรนซี่ Binance, Bitkub, BinanceTH, และ Orbix จากนั้นโอนเงินดิจิทัลสกุล USDT เข้า Wallet ของบอสชาวจีน

โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุม นายบุรพลฯ ในความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” สถานที่จับกุม หน้าบ้านบริเวณ ม.6 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

สืบเนื่องจาก สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการถูกแก๊ง Call Center โทรหลอกให้โอนเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท จึงได้ทำการสืบสวนและติดตามจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ โดยสามารถจับกุมได้ตั้งแต่ บัญชีม้า, คนจัดหาบัญชีม้า, พนักงานคอลเซ็นเตอร์, ล่ามแปลภาษา, บอสชาวจีน และทลายเครือข่ายลักลอบพาบัญชีม้าข้ามแดน ที่บริเวณตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (ปฏิบัติการLockdown the Cat)

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปในออฟฟิศที่ทำการฟอกเงินให้กับแก๊ง Call Center ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ทำให้สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นตัวการสำคัญในการฟอกเงินซึ่งอยู่ในออฟฟิศดังกล่าวได้เพิ่มเติม
กระทั่งปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2568 ทางการไทยมีการปราบปรามแก๊ง Call Center อย่างหนัก ทำให้ออฟฟิศดังกล่าวปิดทำการชั่วคราว ผู้ต้องหารายนี้จึงกลับเข้ามาประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว

ผู้ต้องหาให้การว่า ไปทำงานเป็นพนักงานในออฟฟิศฟอกเงินให้แก๊ง Call Center บริเวณโซน 3 ปอยเปต มีบอสชาวจีนเป็นเจ้าของโดยเป็นออฟฟิศฟอกเงินขนาดใหญ่ให้กับแก๊ง Call Center กว่า 70 แก๊ง โดยได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 8-12% ในแต่ละวันจะมีเงินเข้าประมาณ 30 ล้านบาท หรือเกือบ 1 ล้าน USDT

นายบุรพลฯ เริ่มไปทำงานตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2566 ถึง วันที่ 13 ก.พ.2568 โดยจะมีบัญชีม้าชาวไทย เข้ามาที่ออฟฟิศทุกวัน วันละประมาณ 20 คน โดยมีนายหน้าชาวไทย เป็นคนติดต่อบัญชีม้าและพาข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ มาส่งให้กับนายหน้าชาวจีน โดยบอสชาวจีนจะให้ค่าบัญชีม้า บัญชีละ 8,000 -12,000 บาท
- ซึ่งนายบุรพลฯ ทำหน้าที่แปลภาษาให้บอสชาวจีน, เช็กแอปธนาคารที่บัญชีม้าเปิดมา, สแกนหน้าบัญชีม้าเพื่อโอนเงิน, เปลี่ยนเงินจากเงินสดในบัญชีม้าเป็น เงินดิจิทัลสกุล USDT ผ่านแอปพลิเคชันคริปโตเคอเรนซี่ Binance, Bitkub, BinanceTH, และ Orbix และโอนเงินดิจิทัลสกุล USDT เข้า Wallet ของบอสชาวจีน จากนั้นบอสชาวจีน จะกระจายโอนส่วนแบ่งเป็น USDT เข้า Wallet ของแต่ละแก๊งตามยอดเงินที่แต่ละแก๊งหลอกลวงได้

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. สั่งการให้ พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง, พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จอมเล็ก สว.กก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.ปกฉัตร สงวนแวว สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.นันทณัฐ ปิณะวันนา ,ร.ต.อ.นนทนันท์ นวนงาม, ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ เศรษฐอัครเบญจา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., จ.ส.ต.พีระวุฒิ สนธิสำราญ, จ.ส.ต.กุลชาติ พลับสอาด ผบ.หมู่ ช่วยราชการ กก.3 บก.ปอท. ดำเนินการ