วันที่ 29 ธ.ค. 67 จากกรณีเหตุการณ์สายการบินเชจูแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 7C 2216 ทำการบินออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลาประมาณ 02.11 น. จากหลุมจอด F6 ทางวิ่งขึ้น 02R ได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน จ.ช็อลลาใต้ ประเทศเกาหลีใต้ ได้เกิดเหตุล้อของเครื่องบินไม่กางออก ทำให้ไถลไปตามรันเวย์ และเกิดไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งในเที่ยวบินที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสารจำนวน 175 คน และลูกเรือ 6 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีผู้โดยสารคนไทยจำนวน 2 คนนั้น จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.สิรินธร จะอื่อ อายุ 22 ปี ชาวบ้านห้วยน้ำขุ่น ม.16 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ที่นั่ง A20 และนางดวงมณี จงลักษณ์ อายุ 49 ปี ที่นั่ง A9
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านห้วยน้ำขุ่น หมู่ 16 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวสิริธร จะอื่อ หรือน้องเหมย หนึ่งในชาวไทยที่อยู่บนเครื่องบินที่ประสบเหตุ โดยนายธีรภัทร จะอื่อ อายุ 37 ปี น้าของน้องเหมย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ที่น้องเหมย เดินทางไปยังเกาหลีเนื่องจากว่าจะเดินทางไปหาคุณแม่ ที่ทำงาน และมีครอบครัวใหม่ที่ประเทศเกาหลี ซึ่งไปอยู่มานานกว่า 10 ปีแล้ว
ทางน้องเหมย ตั้งใจจะเดินทางไปเที่ยวหาคุณแม่ที่เกาหลี โดยครั้งนี้เป็นการเดินทางเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ทุกครั้งจะเป็นช่วงที่น้องปิดเทอม
โดยในครั้งนี้คุณแม่ของน้องเหมย ก็เดินทางมารอรับที่สนามบินเหมือนครั้งแรก ซึ่งระหว่างที่มารอรับแม่ของน้องเหมย ก็ทราบข่าวจากทางสนามบินว่าเครื่องบินลำที่น้องเหมย นั่งมานั้นมีปัญหาขณะเครื่องกำลังแลนดิ้งลง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นหนักถึงขนาดนี้ ในตอนนั้นแม่ของน้องเหมย ก็โทรมาแจ้งให้กับตนทราบ ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากคิดว่าเดี๋ยวก็คงลงมาจากเครื่องบิน
แต่พอตนเลื่อนไปดูในโซเชียลก็เห็นคลิปขณะเครื่องบินลำที่น้องเหมยนั่ง ประสบอุบัติเหตุและเครื่องบินระเบิด หลังจากเห็นภาพก็ยังไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าบอกแม้กระทั่งแม่ของน้องเหมย เพราะกลัวตกใจ จนกระทั่งแม่น้องเหมย มาทราบข่าวจากสนามบินในเวลาต่อมา โดยหลังจากทราบข่าวแม่ของน้องเหมย ช็อคมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจนถึงตอนนี้ก็ยังคงรอที่สนามบิน เพื่อติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด และรอดูร่างของลูกสาว
เท่าที่ได้พูดคุยกันหลังจากนี้ทางสายการบินก็จะมีการส่งตั๋วเครื่องบิน มาให้กับตนเองและน้องชาย ของน้องเหมยอีก 2 คน เพื่อเดินทางไปยังประเทศเกาหลี ไปดำเนินการรับร่างของน้องเพื่อกลับมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่บ้านเกิด ซึ่งยังไม่รู้เลยว่าจะจัดพิธีที่เกาหลีแล้วนำกระดูกกลับมายังประเทศไทย หรือจะนำร่างกลับมาประกอบพิธีกรรมที่บ้านเลย
สำหรับตัวของน้องเหมย ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวมากๆ เพราะด้วยครอบครัวเป็นกลุ่มชาติพันธ์ุ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยมีใครที่จะไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่น้องเหมยเป็นเด็กที่เรียนเก่ง จนสามารถสอบชิงทุนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในคณะมนุษศาสตร์และการจัดการท่องเที่ยว สาขาวิชาการจัดการธุรกิจสายการบิน และตัวของน้องเหมย มีความฝันที่ชัดเจนว่าหากเรียนจบก็จะอยากเป็นแอร์โฮสเตส ซึ่งเหลือเพียงแค่ 3 เดือนน้องก็จะเรียนจบแล้ว ก่อนหน้านี้ครอบครัวยังเคยพูดคุยกันว่าในวันที่น้องรับปริญญาก็จะเดินทางไปร่วมพิธีรับปริญญาของน้องเหมยด้วยกัน
สำหรับน้าของน้องเหมย และน้องชายอีกสองคนของน้องเหมย จะเดินทางไปยังประเทศเกาหลีในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากวันนี้ยังเตรียมตัวเดินทางไม่ทัน ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้จะเป็นการเดินทางไปจัดการเรื่องศพของน้องเหมย ว่าจะนำมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่บ้าน หรือจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่เกาหลีแล้วนำกระดูกกลับมาที่บ้านแทน