เตรียมขอศาลออกหมายจับ มือปืนรับจ้างรับดูแลสวนปาล์ม ฆ่าโหดเผานั่งยางรวม 4 ศพ ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน
(11 พ.ค. 68) ความคืบหน้าเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต ถูกเผานั่งยางในสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.กะมาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ช่วงกลางดึกเมื่อคืน (10 พ.ค. 68) ล่าสุด จากการเข้าตรวจเก็บพยานหลักฐานของ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พบว่า จุดเกิดเหตุแรกภายในขนำร้าง พบรอยลอยเลือด 2 กองใหญ่ถูกกลบด้วยดินจำนวนมาก และบริเวณฝาผนังมีคราบเลือดหลายจุด พบปลอกกระสุนปืนขนาด .45 และ .22 อย่างละ 1 ปลอก
ขณะที่หลังขนำร้าง เป็นร่องน้ำลึกเกือบ 2 เมตร พบขดลวดเศษยางรถยนต์จำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บขี้เถ้าและตรวจสอบอย่างละเอียด พบชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะมนุษย์
พฤติการณ์คนร้ายได้ก่อเหตุยิงโกเชษฐ์ 1 ในผู้เสียชีวิต กับลูกน้องอีก 2 คน ในขนำร้าง จากนั้นได้ใช้ท่อนไม้วางพาดบนร่องน้ำดังกล่าว แล้วนำร่างผู้เสียชีวิตไปวางบนท่อนไม้ ก่อนนำยางรถยนต์ไปสุมด้านใต้และจุดไฟเผาทันที ส่วนหลุมที่ห่างจุดเผานั่งยาง 100 เมตร เจ้าหน้าที่พบหลุมสภาพฝังไม่นานคาดว่าไม่เกิน 1 เดือน และเมื่อขุดดินขึ้นมา ก็พบกระดูกมนุษย์
โดยชาวบ้าน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า โกเชษฐ์ มีบ้านอยู่ในพื้นที่ ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้รับจ้างดูแลสวนปาล์มน้ำมันหลายแปลงให้นายทุนชาว จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้รับจ้างดูแลสวนปาล์มน้ำมันให้นายทุนคนเดียวกันแต่คนละแปลง
ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะไปตัดปาล์มน้ำมันที่สวนจุดเกิดเหตุเช่นกัน จึงมีความพยายามที่จะยึดสวนปาล์มน้ำมันที่โกเชษฐ์กับลูกน้องดูแล ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 170 ไร่ ทำให้ทั้ง 2 กลุ่มขัดแย้งกันมานาน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นมือปืนรับจ้างในพื้นที่ จ.ตรัง และกระบี่อีกด้วย
ด้าน พันตำรวจเอก ธีรภัทร ปิยะถาวร ผู้กำกับการ สภ.สิเกา เปิดเผยว่า จากการสืบสวน ผู้เสียชีวิตเป็นชาวจังหวัดกระบี่ 2 คน และอีกหนึ่งคนเป็นชาวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งทั้งหมดดูแลสวนปาล์มน้ำมันจุดเกิดเหตุ ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ ก็คาดว่า เป็นกลุ่มคนในพื้นที่มีไม่ต่ำกว่า 2 คน ที่อาจจะเข้าไปขโมยปั๊มน้ำมัน หรือขัดแย้งผลประโยชน์การดูแลสวนปาล์มน้ำมันให้นายทุนแล้วพบกับกลุ่มผู้เสียชีวิต จึงลงมือยิงจนเสียชีวิต แล้วก่อเหตุเผานั่งยางทำลายหลักฐาน
ซึ่งขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และสภ. สิเกา ระดมกำลังลงพื้นที่ ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ และหาเบาะแสกลุ่มผู้ก่อเหตุ จนรู้ตัว กลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกับติดตามประกบ กลุ่มผู้ก่อเหตุ ก่อนขอศาลจังหวัดตรังออกหมายจับ
