ไรเดอร์น้ำตาตก หาเงินรักษาลูกป่วยมะเร็ง กลับโดนขโมยรถ

ไรเดอร์น้ำตาตก ขี่ จยย.หาเงินรักษาลูกสาวป่วยมะเร็ง แต่กลับถูกคนร้ายหลอกชิงรถไป

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ที่ สภ.เวียงชัย จ.เชียงราย นายนคร อายุ 29 ปี ชาว จ.เชียงราย ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.จิตรกร บุญเรือง รองสารวัตร (สอบสวน) ว่าตนเองถูกชายไม่ทราบชื่อหลอกเอารถจักรยานยนต์ไป โดยวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปรับลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งได้เรียกรถผ่านแอปพลิเคชันให้ตนเองไปส่งที่รีสอร์ตในพื้นที่ ม.1 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย เมื่อไปส่งเสร็จแล้ว ลูกค้าคนดังกล่าว อ้างว่าได้ทำธุรกิจซื้อขายพระเครื่อง และขอแลก LINE ตนเองไว้เผื่อสนใจรับส่งพระให้กับเจ้าตัว และจะให้เงินค่าเสียเวลาเป็นค่าตอบแทน จากนั้นตนเองจึงได้มีการแลก LINE พูดคุยกัน โดยลูกค้าคนดังกล่าว ได้ใช้ชื่อ LINE ว่า “อัศวิน โต้รุ่ง”

ต่อมา ในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา วันเกิดเหตุนายอัศวิน โต้รุ้ง ได้ส่งข้อความมาให้ตนเองอีกครั้ง โดยบอกว่าจะจ้างให้ตนเองมารับเพื่อพาไปส่งบ้าน โดยให้เดินทางไปรับเจ้าตัวในตัวเมืองเชียงราย อ้างว่า จะให้ค่าเสียเวลาจำนวน 3,000 บาท ด้วยความไว้ใจตนเองจึงตอบตกลงและรีบขี่รถมอเตอร์ไซต์ฝ่าพายุฝนเพื่อไปหา แต่ระหว่างทางตนเองเกิดรถล้มได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณแขน และเมื่อไปถึงจึงได้บ่นให้กับนายอัศวินโต้รุ่งฟังว่าระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถล้มทำให้มาช้า ก่อนจะรับนายอัศวินโต้รุ่งเพื่อเดินทางพาไปส่งบ้านตามที่ตกลงกันไว้

แต่ระหว่างทางนายอัศวินโต้รุ่งได้ออกอุบายให้ว่า จะขอเป็นคนขี่รถมอเตอร์ไซต์เองเนื่องจากเป็นห่วงว่าตัวเองจะขับรถไม่ไหวเนื่องจากเจ็บแขน ตนเองจึงยอมสลับคนขับและนั่งซ้อนท้ายนายอัศวินโต้รุ่งแทน ต่อมาเมื่อใกล้จะถึงบ้าน นายอัศวินโต้รุ่งได้ทำทีจอดแวะร้านขายของชำข้างทาง โดยบอกให้ตนเองช่วยลงจากรถและไปซื้อบุหรี่ที่ร้านขายของชำให้หน่อย ด้วยความเชื่อใจตนเองจึงลงจากรถเพื่อไปซื้อบุหรี่ให้ ระหว่างนั้นนายอัศวินโต้รุ่งได้ใช้โอกาสที่เผลอรีบขับมอเตอร์ไซค์ของตนเองออกจากร้านไปทันที ตอนนั้นตัวเองตกใจมาก พยายามตะโกนเรียกก็ไม่หยุด และตอนนั้นตนเองไม่รู้เลยว่า นายอัศวินโต้รุ่งจะเอารถของตัวเองไปไหน

ต่อมาตนเองจึงได้ส่งข้อความไปถามนายอัศวินโต้รุ่งว่าเอารถตนเองหนีไปไหน นายอัศวินโต้รุ่งอ้าง จะขอแวะไปเอาพระที่บ้านแป๊บนึง เดี๋ยวกลับมารับที่ร้าน ให้รออยู่ที่นั่น ขอเวลา 5 นาที แต่หลังจากรออยู่นานกว่า 15 นาทีและพยายามติดต่อผ่านไลน์ ตนเองกลับได้รับคำบ่ายเบี่ยง ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแน่นอน

นายนคร บอกอีกว่า ตอนนี้รู้สึกเสียใจมากและไม่รู้จะหาเงินเลี้ยงลูกสาวและครอบครัวต่อไปอย่างไร ลูกสาวของตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง ตนเองจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากเพื่อรักษาชีวิตของลูกสาวไว้ แต่กลับถูกโจรในคราบลูกค้าหลอกเอารถมอเตอร์ไซต์ซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินตนเองไป และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุพบว่าตนเองไม่ใช่เหยื่อรายแรกที่ถูกหลอกเอารถมอเตอร์ไซต์ไป แต่ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่ถูกชายคนดังกล่าวหลอกในลักษณะเดียวกัน

นายนคร เล่าด้วยว่า ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 5 กันยายนปีที่แล้ว ตนเองก็ถูกหลอกอีกเช่นกัน โดยตอนนั้นถูกมิจฉาชีพ หลอกว่าจะส่งตนเองไปทำงานต่างประเทศจะได้มีรายได้ดี โดยตนเองต้องสูญเสียเงินไปกว่า 61,000 บาท แต่กลับไม่ได้ไปทำงานต่างประเทศอย่างที่คิดไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งสองเหตุการณ์นี้ทำให้ตนเองท้อแท้กับชีวิตเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะซวยซ้ำซวยสอนขนาดนี้ ที่สงสารที่สุดคือลูกสาวของตนเองที่ยังเล็กแถมยังป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปรักษาลูกสาว

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของ นายนคร โดยพบว่า นายนครยังมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูรวมทั้งหมด 3 คน คนโตอายุเพียง 6 ขวบ ส่วนอีก 2 คนยังอยู่ในวัยแบเบาะ อายุเพียง 2 ขวบ และ 3 ขวบ โดยลูกสาวคนเล็กป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ต้องได้รับการทำเคมีบำบัดทุกเดือน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางหมีหง่า อายุ 31 ปี ภรรยานายนคร เล่าทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวของเธอกำลังลำบากอย่างหนัก หลังจากปีที่แล้วสามีเคยถูกหลอกว่าจะได้ไปทำงานต่างประเทศ สูญเงินไปกว่า 60,000 บาทไปแล้ว จนต้องหันมายึดอาชีพขี่รถหารายได้เสริม แต่แล้วความหวังที่มีเพียงเล็กน้อยก็กลับพังทลาย เมื่อคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ที่ใช้ทำงานไป ตอนนี้เงินในบ้านเหลือแค่ 500 บาท ไม่รู้จะมีพอค่ารถ ค่าข้าว หรือค่าผ้าอ้อมให้ลูกหรือเปล่า ที่สำคัญ ค่ารักษาลูกก็ยังไม่มีเลย อยากฝากถึงคนร้ายผ่านสื่อ หากเห็นข่าวนี้ อยากวิงวอนขอให้ช่วยนำรถกลับมาคืน เพราะครอบครัวไม่ได้มีอะไรเหลืออีกแล้ว พร้อมยืนยันว่า จะไม่ถือโทษโกรธเคืองใด ๆ ทั้งสิ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *