จับเจ้าหน้าที่ธนาคารดัง 3 คน ร่วมมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปลอมเอกสารให้ชาวจีน ช่วยเหลือในการเปิดบัญชี เพื่อหลอกเอาเงินจากคนไทย หลังมีเงินโอนเข้ามาแก๊งชาวจีน จะกดเงินสดจำนวนมากจากตู้เอทีเอ็ม และบินออกนอกประเทศทันที
21 พฤษภาคม 2568 จากมาตรการเข้มงวดในการเปิดบัญชีม้า รวมทั้งการซีลชายแดนอย่างเข้มงวด ทำให้กลุ่มแก๊งคนร้ายต่างชาติ เริ่มหันมาเปิดบัญชีม้าด้วยตนเอง โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว แล้วถอนเงินสดออกไปผ่านการกดเงินตู้ ATM เพื่อนำเงินที่หลอกคนไทยได้ กลับไปยังประเทศของตนเอง โดยพบว่ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่ธนาคารเข้ามามีส่วนร่วมในการทำเอกสารเท็จให้กับกลุ่มคนร้ายต่างชาติดังกล่าว
โดยเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 สืบเนื่องจาก ศปอส.บช.น.ได้สืบสวนทราบว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนตระเวนกดเงินสดจากตู้ และ ถอนเงินสดจำนวนมากที่เคาน์เตอร์ธนาคาร กระทั่งประมาณกลางเดือนมีนาคม พบว่ามีชาวจีนเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 15 บัญชี เมื่อเปิดบัญชีธนาคารแล้ว จะตระเวนกดเงินสดจากตู้ และถอนเงินสดจำนวนมากที่เคาน์เตอร์ธนาคารภายใน 1–2 วัน แล้วเดินทางออกนอกประเทศทันที จากการรวบรวมพบว่ามีเงินที่ถูกถอนทั้งสิ้น 91 ล้านบาท
จากการสืบสวนพบว่าเจ้าของบัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 ราย จะเดินทางเข้ามาในประเทศ โดยมีกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทย คอยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มชาวจีน อาทิ ซื้อซิม โทรศัพท์ เปิดบัญชีธนาคาร เมื่อเปิดบัญชีแล้วจะมีเงินถูกโอนเข้ามาให้กับบัญชีธนาคารทั้ง 15 บัญชี รวมเงินประมาณ 118 ล้านบาท จากการตรวจสอบระบบแจ้งความออนไลน์ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า บัญชีธนาคารชาวจีนทั้ง 15 บัญชี มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จำนวน 106 คดี แล้วยังพบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องนำไปใช้หลอกลวงอีก 462 บัญชี จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีที่มีการแจ้งความแล้วจำนวน 2,084 คดี มูลค่าความเสียหายทั้งหมด 2,200 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ศปอส.บช.น. ได้การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่คอยจัดการ และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคนร้ายชาวจีน ที่มาเปิดบัญชีและถอนเงินออกไปจำนวน 5 ราย นอกจากนั้น ขยายผลพบว่า ในการเปิดบัญชีธนาคารของกลุ่มชาวจีนที่ธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีกลุ่มเอเจนซี่และกลุ่มพนักงานธนาคาร มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนดังกล่าว จึงได้ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับกลุ่มเอเจนซี่ และกลุ่มพนักงานธนาคารจนนำไปสู่การขอออกหมายจับ กลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง รวม 5ราย
1. นางสาวสิริลักษณ์ เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร
2. นางสาวชุติมา เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร
3. นายทรงพล เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร
4. นางสาวมนธิดา เป็นล่าม
5. นายณรงค์ฤทธิ์ เป็นล่าม
พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เริ่มปรับตัวใช้วีซ่าท่องเที่ยวมาเปิดบัญชีด้วยตนเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารกลุ่มหนึ่งให้ความช่วยเหลือ ทาง ศปอส.ตร. จะได้มีการขยายผลในคดี จับกุม ยึดทรัพย์ กลุ่มคนร้ายที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด ซึ่งยังมีบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมากมูลค่าความเสียหายเป็นหลักพันล้านบาท และในคดีนี้พบช่องว่างของการทำงานของธนาคาร ซึ่งจะต้องมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้นต่อไป