จากวานนี้ (14 มิ.ย. 68) เพจเฟซบุ๊ก “แจ้งข่าวศรีสะเกษ” ได้เปิดเผยภาพถ่าย พร้อมกับข้อความระบุว่า ปลายกระบอกปืนใหญ่ ของเขมรหันหน้าเข้าไทย บริเวณตรงข้ามปราสาทโดนตรวน และสัตตะโสม บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จนสร้างความกังวลให้กับพี่น้องประชาชนนั้น
ทำให้ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ไทยพบการวางกำลังกัมพูชาหลายจุดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอาวุธยิงสนับสนุนที่มีระยะยิงถึงพื้นที่ในอธิปไตยของไทย
ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคง ฝ่ายไทยจึงได้มีการปรับการวางกำลังเตรียมกำลังให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์เช่นกัน
ล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย.68) เพจเฟซบุ๊ก “แจ้งข่าวศรีสะเกษ” โพสต์ข้อความระบุว่า ทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้น สามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 [12.45]
ต่อมา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลักหรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไปๆ พร้อมีะบุว่าพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการทำถนน ไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทาง กัมพูชาเข้าใจ
ล่าสุด Wassana Nanuam เผย มีรายงานว่า เช้าวันนี้ ทหารไทย นำ เครื่องมือในการตัดถนนเส้นทาง เพื่อใช้ในการลาดตระเวน เข้าพื้นที่เนิน 469 เนิน 745 เนินโนเนม แต่อยู่ในเขตพื้นที่ประเทศไทย เพราะทหารไทยไม่เคยละเมิด MoU อยู่แล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้ทหารไทยก็ได้ตัดถนนในบริเวณดังกล่าวมาหลายจุดแล้ว
แต่ทางทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธเข้ามา ห้ามไม่ให้ทหารไทย ตัดถนน จนต้องมีคุยกันเจรจากัน ในระดับผู้บังคับบัญชาและมีการนำแผนที่ของประเทศไทย และกัมพูชามาวัดกัน ซึ่งในที่สุดฝ่ายกัมพูชา ก็เห็นแล้วว่าถนนที่สร้างอยู่ในเขตประเทศไทย จึงสามารถคุยกันได้ การสร้างถนนของทหารไทยก็ดำเนินต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ายทหาร กัมพูชาก็ยังคงคอยจับตามอง การสร้างถนนของประเทศไทย เพื่อไม่ให้ล้ำแดน