เมื่อคืนวันที่ 2 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา เฟซบุ้กของ ฮุน มาเนต นายกฯ ของกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการเขตแดนร่วมฝ่ายกัมพูชาเตรียมข้อมูลในการปักปันเขตกับไทย และให้เตรียมข้อมูลสำหรับยื่นฟ้องศาลโลก ในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต – ตาเมือนธม – ตาเมือนโต๊ส – ตากระเบย (หรือ ตาควาย) ให้ตัดสินแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ต่อมา เฟซบุ้ก สมเด็จฯ ฮุน เซน ก็ได้โพสต์ข้อความในทิศทางเดียวกัน ถึงการยื่นเอกสารฟ้องต่อศาลโลกในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต – ตาเมือนธม – ตาเมือนโต๊ส – ตากระเบย (หรือ ตาควาย) พร้อมทั้งระบุว่า MOU ปี 43 ไม่สามารถแก้ปัญหาพิพาทนี้ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ หากไทยจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ก็สามารถยื่นต่อศาลโลกได้ทันที ไม่ต้องรอให้กัมพูชาเป็นฝ่ายยื่น
ก่อนทิ้งท้ายว่า ไทยกล้าที่จะขึ้นศาลโลกหรือไม่ ฝ่ายกัมพูชายังคงรอการตอบรับอยู่ แต่ในระหว่างนี้ ให้กองทัพกัมพูชาที่ติดอาวุธใช้ความอดทนอดกลั้น แต่เตรียมพร้อมตอบโต้หากมีการรุกรานเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจาก เดอะพนมเปญโพสต์ เผยว่า ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เตือนว่า หากปัญหาเขตแดนระหว่างกัมพูชากับไทยไม่ได้รับการแก้ไขผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) อาจนำไปสู่ความขัดแยงเรื้อรังคล้ายกับสถานการณ์ในกาซ่า ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ที่มีสงครามไม่จบสิ้น
